การลุกลามของไฟ ของ ไฟป่าในฟอร์ตมักเมอร์รีย์ พ.ศ. 2559

ไฟป่าที่กำลังไหม้ใกล้กับฟอร์ตมักเมอร์รีย์ในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

รัฐท้องถิ่นได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 21:57 น. ตามเวลาท้องถิ่น ให้ผู้อาศัยในเซ็นเท็นเนียลเทรลเลอร์พาร์ก และในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงกับแพรรีครีก รวมไปถึงเกรกวาร์ ภายใต้การบังคับการอพยพของสภาเมือง[12][13] โดยคำสั่งอพยพใน 2 บริเวณได้รับการผ่อนปรนด้วยการให้อยู่ในที่พักอาศัยในเวลากลางคืน ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม เนื่องจากไฟได้ลุกลามไกลจากเมืองออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้[14][15] อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีคำสั่งอพยพใน 12 ละแวกใกล้เคียงในวันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 17:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น[16] และประกาศการอพยพครอบคลุมทั้งเมืองฟอร์ตมักเมอร์รีย์ในเวลา 18:49 น.[9][17] และคำสั่งอพยพเพิ่มเติมที่ครอบคลุมไปถึงแอนแซก, ที่ดินบริเวณทะเลสาบเกรกวาร์ และฟอร์ตมักเมอร์รีย์เฟิสต์เนชัน ในวันที่ 4 พฤษภาคม 21:50 น.[18] ตามรายงาน ผู้อาศัย 88,000 คนได้อพยพออกจากเมืองแล้ว โดยไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต[3] อย่างไรก็ดี มีผู้เสียชีวิต 2 รายในอุบัติเหตุรถชนระหว่างการอพยพผู้คน[4]

เทศบาลภูมิภาควุดบัฟฟาโลได้รายงานในวันที่ 4 พฤษภาคม เวลา 4:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นว่า ชุมชนเบคอนฮิลล์, อบาแซนด์ และวอเตอร์เวส์ ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง[19] ราเชล นอตลีย์ ผู้ว่าการรัฐแอลเบอร์ตา ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดในช่วงเช้าของวันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งมีอาคาร 1,600 ถูกเผาทำลาย และในละแวกของชุมชนเบคอนฮิลล์นั้น มีบ้านพักอาศัยที่ได้รับผลกระทบถึง 600 หลังคาเรือน[2] อีกทั้งยังมีการเปิดเผยว่ามีที่ดินมากถึง 10,000 เฮกตาร์ ถูกเผาทำลายด้วยไฟป่าครั้งนี้[20] ผู้อพยพได้รับการแนะนำให้เดินทางไปทางทิศเหนือของฟอร์ตมักเมอร์รีย์ และไม่อพยพมาทางทิศใต้โดยทางหลวงหมายเลข 63 เนื่องจากไฟยังคงลุกลามและไม่สามารถควบคุมได้[19] ศูนย์สาธารณสุขบอยล์วอเตอร์แอดไวซอรีของเมืองนี้ได้แนะนำให้ออกมาจากบริเวณเมืองในเวลา 11:00 น.[2] ต่อมาในเวลา 16:05 น. ไฟได้ลุกลามในช่วงทางหลวงหมายเลข 63 ที่ตัดกับทางหลวงหมายเลข 69, ทางด้านใต้ของเมือง และสนามบินนานาชาติฟอร์ตมักเมอร์รีย์ ซึ่งมีการระงับการบินเชิงพาณิชย์แบบฉุกเฉินในวันเดียวกัน[19][21] เนื่องจากไฟที่ลุกลามเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้ต้องย้ายที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการสภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเดินตั้งอยู่ใกล้กับสนามบิน[22]

ไฟล์:Wildfire Spreads in Fort McMurray.jpgภาพถ่ายดาวเทียมของไฟป่าและร่องรอยของพื้นที่ที่ถูกเผา ในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ไฟป่ายังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องทางด้านทิศใต้ในวันที่ 5 พฤษภาคม เผาทำลายพื้นที่ 85,000 เฮกตาร์ และมีการประกาศบังคับให้อพยพผู้คนเพิ่มเติมในชุมชนแอนแซก, ที่ดินบริเวณทะเลสาบเกรกวาร์ และฟอร์ตมักเมอร์รีย์เฟิสต์เนชัน ซึ่งมีผู้คนที่ยังติดค้างอยู่ถึง 8,000 คน[20][22] พื้นที่ในเทศบาลภูมิภาควุดบัฟฟาโล ได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่ฉุกเฉินในเวลา 10:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น[23] โดยรัฐแอลเบอร์ตาได้มีแผนที่จะอพยพผู้คนทางอากาศประมาณ 8,000 ถึง 25,000 คน ไปยังค่ายคนงานทรายน้ำมันปิโตรเลียมทางตอนเหนือของฟอร์ตมักเมอร์รีย์ ด้วยความช่วยเหลือจากกองทัพอากาศแคนาดา ซึ่งใช้เครื่องบินซี-130 เฮอร์คิวลิส และเครื่องบินอพยพลำอื่น ๆ ที่ให้การสนับสนุนโดยบริษัทผลิตทรายน้ำมันปิโตรเลียม โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐจะตรวจสอบการอพยพบนทางหลวงหมายเลข 63 ระหว่างการอพยพคนทางอากาศ[20] โดยมีเจ้าหน้าที่ 1,100 คน, เฮลิคอปเตอร์ 45 ลำ, เครื่องจักรหนัก 138 ชิ้น และ เครื่องบินดับไฟอีก 22 ลำ สำหรับการดับไฟป่าครั้งนี้[23]

ในวันที่ 6 พฤษภาคม ตำรวจม้าแคนาดา ได้อำนวยความสะดวกเพื่อช่วยเคลื่อนย้ายรถของผู้อพยพ 1,500 คัน (50 ในเวลานั้น[24][25]) จากค่ายคนงานทรายน้ำมันปิโตรเลียมทางตอนเหนือของฟอร์ตมักเมอร์รีย์, ทางด้านใต้ตามทางหลวงหมายเลข 63 จนถึงเอดมันตัน[26] ได้มีการรายงานว่าไฟได้ลุกลามไปเกิน 100,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 386 ตารางไมล์) แต่ลุกลามด้วยอัตราที่ลดลงจากเดิม[1][26]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไฟป่าในฟอร์ตมักเมอร์รีย์ พ.ศ. 2559 http://wildfire.alberta.ca/wildfire-status/wildfir... http://www.alberta.ca/release.cfm?xID=41701E7ECBE3... http://www.cbc.ca/news/canada/edmonton/2-die-in-fi... http://www.cbc.ca/news/canada/edmonton/catastrophi... http://www.cbc.ca/news/canada/edmonton/fort-mcmurr... http://www.cbc.ca/news/canada/edmonton/fort-mcmurr... http://www.cbc.ca/news/politics/trudeau-government... http://www.ctvnews.ca/canada/fort-mcmurray-fire-st... http://www.rcmp-grc.gc.ca/ab/news-nouvelles/2016/0... http://climate.weather.gc.ca/climateData/dailydata...